พนง.ส่งของหัวร้อน แจกของลับแม่ผกก.หลังไม่ให้กลับรถ
- admin
- 0
พนักงานส่งของรายหนึ่งเกิดอาการหัวร้อน เมื่อถูกเจ้าของบ้านต่อว่าหลังกลับรถไปชนประตูบ้าน จึงตะโกนให้ของลับก่อนท้าทายให้จดทะเบียนรถไว้ แล้วขับรถออกไป
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีคลิปที่ถูกโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นภาพกล้องวงจรปิด จำนวน 2 คลิป ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ที่คนส่งพัสดุ ขับรถกระบะได้กลับรถภายในซอยและถอยชนประตูรั้วบ้านของผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่ง จนเกิดการโต้เถียงกัน โดยคนส่งพัสดุใช้ถอยคำที่หยาบคาย พร้อมท้าทายให้จดเลขทะเบียนไว้ ก่อนจะขับรถออกไป
แมสเซนเจอร์ส่งของแอนนารถล้มจริง แต่ไม่เกี่ยวของหาย
อากาศมันร้อนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! พนง.ส่งของฟ้อนหมอลำ หวังให้เพื่อนคลายเครียด
โดยผู้โพสต์คลิปดังกล่าวยังระบุข้อความใจความว่า “คนขับรถคนนี้มาด่าแม่ ด้วยถอยคำหยาบคาย ทั้งที่เป็นบ้าน แถม ท้าทาย ด้วยบอกให้จดทะเบียนไปเลย”
ทั้งนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา
นางพชร อายุ 73 ปี ผู้หญิงที่อยู่ในคลิป เล่าว่า ระหว่างกำลังเดินกลับเข้าบ้าน เห็นรถกระบะกำลังกลับรถบริเวณหน้าบ้าน เลยเตือนว่ากลับไม่ได้ เนื่องจากประตูจนรั้วจนสั่นแล้ว แต่คนส่งของเขาก็ยังยืนยันว่า จะกลับ พอเลี้ยวรถกลับได้ เขาก็หันมาถามว่าค่าเสียหายเท่าไร จึงบอกไปว่าเรื่องประตูมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ามาขอกลับรถก็จะเปิดประตูให้กลับ ก่อนคนส่งของจะขับรถออกไปแล้วตะโกนให้ของลับ ทั้งที่ตนเองน่าจะเป็นย่า หรือ ยาย ของคนขับรถคดังกล่าวซึ่งน่าจะมีอายุประมาณ 30 ปี
พอเขาเลี้ยวรถกลับได้ เขาบอกว่า เสียหายเท่าไหร่ พูดอย่างนี้ พูดแบบห้วน ๆ เสียหายเท่าไหร่ 2 บานใช่ไหม 2 อัน เขาเรียกอะไร ไม่รู้เขาเรียกอะไร 2 อัน ใช่ไหม บอกมันไม่ใช่เรื่องปัญหาใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย เรื่องประตูถ้าเธอมาขอว่า ขอนะ ขอกลับหน่อยอย่างนี้ก็จะให้ เธอไม่อะไรเลยเธอมาแล้ว เธอก็ด่า ๆ ๆ บ้านข้าง ๆ เขาก็ได้ยิน เหมือนกันแล้วพอ เสร็จแล้วมันก็ขับรถออกไปหน่อยแล้วมันก็กลับมาให้ของลับ ให้ของลับป้า เนี่ยปัญหาคือตรงนี้ โดยที่เราติดใจคือมาด่าเราทำไม ด่าเรื่องอะไร เราไม่ได้ไปทำอะไร
ด้าน พันตำรวจเอก ธนกฤต รวยอารี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นลูกชาย ของ นางพชร และเป็นผู้โพสต์คลิป ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า เนื่องจากที่บ้านเป็นซอยตัน หากใครมีความจำเป็นจะเปิดประตูให้กลับรถโดยจะะอนุญาตเป็นกรณีไป แต่รายนี้ปรากฏว่าหลังจากที่กลับรถเสร็จแล้ว นอกจากไม่มีคำขอโทษ ยังมีการใช้คำหยาบคายใส่คุณแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ
ซึ่งตอนนี้รู้ตัวคนขับรถคนดังกล่าวแล้ว โดยมีการโทรมาเจรจา อยากจะขอโทษ แต่ตนเองอยากบอกว่า สิ่งที่อยากจะเห็นไม่ใช่เรื่องของการขอโทษมันเป็นเรื่องของการมีจิตสำนึก จึงอยากจะฝากถึงบริษัทก่อนที่จะรับพนักงาน ควรมีการอบรมแล้วเพิ่มทักษะอีคิวให้แก่ผู้ที่มีอาชีพลักษณะเช่นนี้ให้มากกว่านี้